เผยแล้วกินอะไร ชายวัย 35 รอดโศกนาฏกรรม "ไม่โดนตัดขา" ความดัน-น้ำตาลคงที่ใน 3 เดือน

3 weeks ago 10

หมอยังชื่นชม คนไข้กินเมนูเดิมตลอด 3 เดือน ความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดคงที่ รอดพ้นจากโศกนาฏกรรม "ตัดขา"

ตามรายงานพบว่า “คุณหวัง” (นามสมมุติ) ชายวัย 35 ปี ทำงานเป็นพนักงานโรงงานในไต้หวัน เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขาไปพบแพทย์เนื่องจากมีอาการปวดน่องอย่างรุนแรง ส่งผลต่อการทำงานและกิจกรรมประจำวันของเขา

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เขาบอกแพทย์ว่าช่วงนี้มักจะมีอาการปวดหัว แน่นหน้าอก อารมณ์ไม่ดี และมองเห็นไม่ชัด ต่อมาแพทย์ตรวจพบว่าเขามีความดันโลหิตสูง อีกทั้งดัชนีไขมันในเลือด และน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เมื่อโรคที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที บวกกับการทำงานหนัก และทำงานกะกลางคืนบ่อยๆ ส่งผลให้หลอดเลือดแดงบริเวณแขนขาส่วนล่างอุดตัน

ดร.หยาง แพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ได้เตือนเขาว่าถ้าไม่เปลี่ยนวิถีชีวิต ชั่วโมงทำงาน และอาหาร เขาอาจจะต้อง “ตัดขาข้างหนึ่งออก” เนื่องจากหลอดเลือดแดงอุดตันที่ส่วนล่าง รวมทั้งแนะนำให้ทำการตรวจหัวใจและหลอดเลือดแบบเจาะลึกด้วย

ดร. หยาง กล่าวว่า "เมื่อได้ยินเรื่องสุขภาพของเขา ผู้ป่วยก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ เขากล่าวว่าครอบครัวของเขากำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินครั้งใหญ่ และเป็นคนทำงานเพียงคนเดียวในบ้าน บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเพียงต้องการการรักษาแบบผู้ป่วยนอก

แม้จะพลาดนัดตรวจสุขภาพไปสองสามครั้งก็ตาม อย่างไรก็ตาม คนไข้มีความขยันอย่างมากในการรับประทานยา ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต อัพเดทสถานการณ์ผ่านทางข้อความ สามเดือนต่อมา และผลการตรวจติดตามผลของเขาก็ทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการบ่งชี้ด้านสุขภาพของคุณหวังทั้งหมดดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น้ำหนักของเขาลดลงเกือบ 10 กิโลกรัมพ้นจากระดับโรคอ้วน ความดันโลหิตลดลงจาก 147/90 mmHg เป็นประมาณ 127/86 mmHg ดัชนีน้ำตาลในเลือดลดลงจาก 160 mg/DL เป็น 120 mg/DL การพยากรณ์โรคคือการรักษามีประสิทธิผล และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการตัดแขนขาส่วนล่าง

เคล็ดลับคือกิน 1 สิ่งทุกวัน เป็นเวลา 3 เดือน

เมื่อแบ่งปันถึงปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยให้เขาต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ คุณหวังกล่าวว่า นอกจากการกินยาแล้ว เคล็ดลับยังอยู่ที่อาหารอีกด้วย ตามคำแนะนำของคุณหมอหยาง อาหารที่มีกากใยสูง เช่น เห็ด ดีต่อหลอดเลือด เขาจึงเริ่มเปลี่ยนเมนูอาหาร และรับประทานเห็ดให้มากขึ้น โดยเฉพาะเห็ดหูหนูทุกวัน

นอกจากนี้เขายังเปลี่ยนงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานในเวลากลางคืน เข้านอนเร็ว นอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายทุกวัน ในการปรุงอาหารแม้จะเป็นเมนูเห็ด ก็พยายามใช้น้ำมันให้น้อยที่สุดและควบคุมจำนวนเครื่องเทศอย่างเคร่งครัด

ดร.หยาง กล่าวว่า “การรับประทานอาหารมีผลกระทบอย่างมากต่อกระบวนการรักษาของเขา เมนูเห็ดที่เขากินทุกวันไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยไฟเบอร์เท่านั้น แต่ยังมีสารประกอบที่ดีต่อการไหลเวียนโลหิต ซึ่งมีส่วนช่วยให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น และลดน้ำตาลในเลือด"

เห็ด อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและปกป้องเยื่อบุหลอดเลือด, ลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี, ยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มการเผาผลาญอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเลือกเห็ดและปรุงให้ถูกหลักเสมอ