สังเกตผิว รู้ทันโรคตับ พบ 3 สัญญาณ “แดง-ดำ-เหลือง” ควรรีบพบแพทย์ทันที!
ผิวหนังเป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้สุขภาพภายในร่างกาย โดยเฉพาะ “ตับ” ซึ่งทำหน้าที่กรองและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย หากตับเริ่มมีปัญหา สารพิษจะสะสมและแสดงออกทางผิวหนังอย่างชัดเจน หนึ่งในสัญญาณเตือนที่สำคัญที่สุดคือ การเปลี่ยนแปลงของสีผิว หากพบว่าผิวมีลักษณะสีที่ผิดปกติ ทั้งสีแดง สีเหลือง หรือสีดำ ควรรีบตรวจเช็คตับโดยเร็ว ก่อนที่อาการจะลุกลามจนยากต่อการรักษา
ผิวแดง: ฝ่ามือแดง – ไฝแมงมุมแดง
-
ฝ่ามือแดงผิดปกติ (Palmar Erythema) หรือที่เรียกว่า “มือแดงจากตับ” เป็นภาวะที่เส้นเลือดฝอยในฝ่ามือขยายตัว ทำให้ฝ่ามือดูแดงกว่าปกติ โดยมักมีอาการร่วมกับความร้อน เหงื่อออกมาก และหากกดลงไปจะเห็นรอยแดงจางลงชั่วคราวแล้วกลับมาแดงอีกครั้ง อาการนี้พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง เช่น ตับแข็ง ไขมันพอกตับ หรือมะเร็งตับ
-
ไฝแมงมุมแดง (Spider Angioma) เป็นจุดแดงเล็ก ๆ ตรงกลาง มีเส้นเลือดแตกแขนงคล้ายขาแมงมุม มักพบตามใบหน้า ลำคอ หน้าอก และแขน เมื่อกดจุดแดงตรงกลาง เส้นที่แตกแขนงจะหายไปชั่วคราว แล้วกลับมาเมื่อปล่อยมือ ภาวะนี้มักเกิดในผู้ป่วยตับแข็งหรือไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงขึ้นและการไหลเวียนเลือดผิดปกติในตับ
ผิวดำคล้ำ: หน้าและใต้ตาหมองคล้ำ – เสี่ยงตับแปรปรวน
หากสังเกตเห็นผิวหน้าเริ่มหมองคล้ำ แห้งกร้าน หรือมีรอยคล้ำใต้ตาอย่างชัดเจน อาจเป็นสัญญาณว่า “ตับกำลังทำงานหนัก” หรือมีความผิดปกติในการกำจัดของเสีย โดยเฉพาะสารเมลานินและบิริรูบินที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง
-
ใบหน้าหมองคล้ำ อาจเกิดจากตับขับเมลานินออกไม่หมด ทำให้ผิวขาดความกระจ่างใส
-
รอยคล้ำใต้ตา เกิดจากการไหลเวียนเลือดผิดปกติเมื่อปริมาณเลือดสะสมมากบริเวณรอบดวงตา นอกจากนี้ ตับที่อ่อนแอยังส่งผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้สีผิวใต้ตาเข้มขึ้นแม้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ บริเวณรอบดวงตาเป็นจุดที่สารพิษสะสมได้ง่าย หากพบว่าคล้ำกว่าปกติควรรีบตรวจเช็คสุขภาพตับโดยด่วน
ผิวเหลือง: อาการเด่นของโรคตับเรื้อรัง – อย่ามองข้าม
-
ผิวเหลือง ตาเหลือง เป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคตับที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ป่วยตับแข็งหรือมะเร็งตับ เกิดจากการสะสมของ “บิริรูบิน” ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดง เมื่อบิริรูบินไม่ถูกขับออกจากร่างกาย จะสะสมในกระแสเลือดและส่งผลให้ผิวหนัง ตาขาว ลิ้น ฝ่ามือและฝ่าเท้ามีสีเหลือง
-
อาการร่วม มักมีอาการคันเรื้อรัง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นสัญญาณว่าตับอาจเข้าสู่ภาวะเสื่อมหรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม
ในบางกรณี ผิวเหลืองอาจเกิดจากมะเร็งตับที่กดทับท่อน้ำดี ทำให้น้ำดีไหลเวียนไม่สะดวก หรือพบในผู้ป่วยที่มีตับแข็งเรื้อรังที่ตับไม่สามารถกรองบิริรูบินได้อีกต่อไป อาการที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ ตาเหลือง เล็บเหลือง ปัสสาวะเข้ม ซึ่งต่างจากภาวะดีซ่านที่ไม่ได้เกี่ยวกับตับ
ดังนั้น สังเกตผิวให้ดี ตับอาจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ.... เพราะการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของสีผิว อาจไม่ใช่แค่ปัญหาผิวหนังธรรมดา แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าจากโรคตับ หากพบอาการ “ผิวแดง ผิวดำ หรือผิวเหลือง” ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตับอย่างละเอียด เพราะการรักษาในระยะเริ่มต้นยังมีโอกาสฟื้นฟูได้สูงกว่ามาก
- หมอชี้ช่อง "หนีมะเร็ง" เริ่มจากตัด 1 อาหาร 1 เครื่องดื่ม เรื่องง่ายๆ แต่หลายคนทำไม่ได้!
- ของดีมื้อเช้า! เครื่องดื่มที่ช่วย “ดักจับ” ไขมันเลว ไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือด แถมดีต่อหัวใจด้วย