เสียเวลาอยู่ไหม? ผู้เชี่ยวชาญเตือน 3 ข้อผิดพลาด ใช้เครื่องซักผ้า "ยืดเวลา" โดยไม่จำเป็น ทำรอบการซักยาวนานขึ้น!
หลายคนอาจเคยประสบปัญหาเครื่องซักผ้าใช้เวลานานกว่าที่แสดงบนหน้าจอ ทั้งที่ตัวเลขบอกว่าเหลือเพียงไม่กี่นาที แต่เวลาจริงกลับยืดเยื้อออกไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ล่าสุด Palmer-Smith ผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ได้ออกมาไขข้อสงสัยผ่านทางสำนักข่าว Daily Mail ถึงสาเหตุที่แท้จริง พร้อมชี้ให้เห็นถึง 3 พฤติกรรมที่ทำให้เครื่องซักผ้าทำงานช้าลง โดยที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ตัวว่าพลาดเสียแล้ว....
1. ใส่น้ำยาซักผ้ามากเกินไป
หลายคนเชื่อว่าการใส่น้ำยาซักผ้ามากๆ จะช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดและหอมยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริง เครื่องซักผ้าจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขจัดคราบน้ำยาซักผ้าส่วนเกิน ส่งผลให้ระยะเวลาในการซักและล้างน้ำเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น “ถ้าใส่น้ำยาซักผ้ามากเกินไป เครื่องจะใช้เวลานานขึ้นในการหมุนและล้างน้ำเพื่อขจัดคราบฟองและสารตกค้าง” Palmer-Smith กล่าว
2. ยัดผ้าแน่นจนเกินไป ทำให้เครื่องเสียสมดุล
การใส่เสื้อผ้าจำนวนมากเกินไปในถังซักอาจทำให้เครื่องเสียสมดุล ระบบเซ็นเซอร์ของเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่สามารถตรวจจับความไม่สมดุลนี้ได้ และจะปรับเพิ่มเวลาในการซักเพื่อลดความเสี่ยงของความเสียหาย “การใส่ผ้าแน่นเกินไปทำให้เครื่องต้องใช้เวลาเพิ่มเพื่อปรับสมดุล เป็นปัญหาที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่ายๆ เพียงแค่กระจายผ้าให้ทั่วถังซัก” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
3. ซักผ้าชิ้นใหญ่หรือหนักมากเกินไปในคราวเดียว
การซักผ้าหนักจำนวนมาก เช่น ซักเสื้อฮู้ดและผ้าเช็ดตัวในรอบเดียว อาจทำให้เครื่องทำงานหนักและใช้เวลานานขึ้น “อย่าใส่ผ้าเกิน 80% ของความจุถังซัก ควรเหลือพื้นที่ว่างให้มองเห็นภายในเครื่องได้บ้าง เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” Palmer-Smith แนะนำ
ดังนั้น หากต้องการให้เครื่องซักผ้าทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพ ควรหลีกเลี่ยง 3 พฤติกรรมดังกล่าว ได้แก่ ใส่น้ำยาซักผ้ามากเกินไป, ยัดผ้าแน่นเกิน และซักผ้าหนักในปริมาณมากเกินความจำเป็น เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยยืดอายุเครื่องซักผ้า และประหยัดเวลาในการซักไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
- หลังใช้เครื่องซักผ้า ควรปิดหรือเปิด “ฝาถัง” สรุปหลายบ้านทำผิด เสี่ยงแบคทีเรียที่แพร่พันธุ์!
- ทำไมต่างชาติชอบ "ตากผ้ากลับหัว" รู้ประโยชน์แล้วว้าว เคล็ดลับง่ายๆ แถมไม่เสียเงิน