เว็บดังเปิด 10 อาหารทะเลยอดนิยมทั่วโลก แซลมอน กุ้ง ปู ไม่ติดโผ อันดับหนึ่งม้ามืดสุดๆ

1 week ago 11
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

เว็บไซต์ด้านอาหารชื่อดังของอเมริกา Tasting Table ได้จัดอันดับอาหารทะเลยอดนิยม โดยพิจารณาจากรสชาติ เนื้อสัมผัส ความหลากหลายในการปรุง และความนิยมในวัฒนธรรมการกินทั่วโลก 

อันดับ 10 ปลาค็อด (Cod)

ปลาค็อด เป็นปลาทะเลน้ำลึกมหาสมุทรแปซิฟิก ที่นิยมทานกันมากในแถบยุโรป จะอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำสะอาด เนื้อแน่นขาว รสชาติของปลาค็อดค่อนข้างอ่อนและไม่มีกลิ่นคาวจัด จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบกินปลาแบบมีกลิ่นคาว ไขมันต่ำ มีวิตามิน A,D,E และ โอเมก้า 3 กรดไขมัน EPA และ DHA สูง ช่วยในการเสริมสร้างระบบประสาทและสมอง แถมยังช่วย ลดไขมันและคอเลสเตอรอลในร่างกายอีกด้วย

อันดับ 9 หมึกสาย (Octopus)

หมึกสายมีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย เป็นแหล่งของแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก สังกะสี ทองแดง และซีลีเนียม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกาย มีวิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง

หมึกเป็นอาหารทะเลที่มีคอเลสเตอรอลสูง การบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกวิธีการปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการของหมึกได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคอเลสเตอรอลมากเกินไป

อันดับ 8 หอยสังข์ (Conch)

หอยสังข์มีรสชาติเฉพาะตัวคล้ายหอยเชลล์หรือหมึก แต่มีรสเค็มนิด ๆ และหวานบางเบา เนื้อแน่น เคี้ยวมัน ให้สัมผัสที่คล้ายหมึกยักษ์ที่ทำสุกดีแล้ว มักจะนำไปสับละเอียด คลุกกับผักสดหลายชนิด และน้ำมะนาวรสเปรี้ยวเค็ม คล้ายยำหอยสไตล์แคริบเบียน กลายเป็นหนึ่งในสลัดทะเลที่อร่อยที่สุดในโลก หอยสังข์ทะเลเนื้อลายสีขาวดำ เนื้อแข็ง คนจีนนิยมนำไปรับประทานทดแทนหอยเป๋าฮื้อ

หอยสังข์เป็นแหล่งอาหารโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งวิตามินอี บี 12 แมกนีเซียม ซีลีเนียม และโฟเลตสูง

ผึ้งหวาน ซีฟู้ดส์

อันดับ 7 หอยตลับ (Clams)

ถ้าคุณไม่ชอบหอยแมลงภู่ แต่ยังอยากลิ้มรสหอยทะเล ลองหอยตลับดู เพราะมีรสชาติกลมกล่อมกว่า หอยตลับเป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอด โดยมีโปรตีน 15-20 กรัมต่อ 3 ออนซ์ (ไม่รวมเปลือก) ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ทำให้หอยตลับเป็นแหล่งโปรตีนไม่ติดมันชั้นยอดสำหรับการบำรุงรักษาและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ 

หอยตลับ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น บำรุงตับ ลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งโปรตีน ธาตุเหล็ก และโอเมก้า 3 ที่ดีต่อร่างกาย 

อันดับ 6 หอยเชลล์ (Scallops)

หอยเชลล์เป็นอาหารทะเลชนิดหนึ่งที่มีไขมันต่ำและมีโปรตีนสูงมาก มีวิตามินบี 12 มีแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น แมกนีเซียม เหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม ทองแดง และสังกะสี แร่ธาตุเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย แคลเซียม ส่งเสริมให้กระดูกและข้อต่อแข็งแรง แมกนีเซียม เป็นสารอาหารเอนกประสงค์ที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพของกล้ามเนื้อและหัวใจ นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งดีต่อหัวใจอีกด้วย

อันดับ 5 ปลาฮามาจิ (Yellowtail หรือ Hamachi)

ปลาฮามาจิ เป็นปลาในตระกูลปลาหางเหลือง เนื้อมีความมัน ลื่นละมุนคล้ายเนย รสชาติค่อนข้างอ่อน แต่มีความหวานในตัว  แม้แบบดิบจะโดดเด่น แต่ปลาชนิดนี้ก็ปรุงสุกได้หลายแบบ ย่างจะได้กลิ่นควันอ่อน ๆ ที่เข้ากับความหวานตามธรรมชาติ อบห่อฟอยล์ก็ช่วยเก็บความชุ่มฉ่ำไว้ได้ดีเช่นกัน

เนื้อปลาฮามาจิ เป็นปลาที่มีคุณค่าทางโภชนาการทางอาหารสูงมากกว่าปลาชนิดอื่นๆ มีโปรตีนสูงกว่า มีไขมันพอดี และมีวิตามินA B1 B2 และD ชาวญี่ปุ่นถือว่าปลาฮามาจิเป็นปลาที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งในการทำซาชิมิ

อันดับ 4 หอยนางรม (Oysters)

หอยนางรมอุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นโปรตีนคุณภาพสูงที่มีกรดอะมิโนทั้งหมด 18 ชนิด ไกลโคเจน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยให้เราฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้า และรู้สึกมีชีวิตชีวา ทอรีน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยส่งเสริมการย่อย และการดูดซึมไขมัน นอกจากนี้ยังมีช่วยในเรื่องปัญหาระบบประสาทและรักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติ

หอยนางรมอุดมไปด้วยวิตามิน A, B1, B2, B6, B12, C, ไบโอติน, โคลีน, อิโนซิทอล และกรดโฟลิก ซึ่งจำเป็นสำหรับการรักษาการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ และช่วยผลิตพลังงาน

หอยนางรมยังประกอบด้วยแคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไอโอดีน แมงกานีส แมกนีเซียม ทองแดง สังกะสี และโคบอลต์ กล่าวกันว่าหอยนางรมมีสังกะสีมากกว่านม 35 เท่า และมากกว่าผักโขม 7 เท่าเลยทีเดียว

อันดับ 3 สาหร่ายทะเล (Seaweed)

แม้หลายคนมองข้ามสาหร่ายเมื่อพูดถึงอาหารทะเล แต่จริง ๆ แล้ว สาหร่ายช่วยเพิ่มรสแบบทะเลในอาหาร โดยไม่ต้องใช้ปลา สาหร่ายเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ แร่ธาตุ และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน มีวิตามิน C วิตามิน B วิตามิน A วิตามิน E ธาตุเหล็ก และไอโอดีนอีกด้วย (โฮ้ประโยชน์เยอะมากมายเลยค่ะ) นอกจานี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งอาจปกป้องร่างกายจากความเครียด ที่เกิดจากการเกิดออกซิเดชัน และลดการอักเสบในระดับเซลล์ได้

สาหร่ายทะเลมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การรับประทานสาหร่าย หรือเพิ่มสาหร่ายลงในอาหารมีส่วนช่วยในการทำงานของต่อมไทรอยด์ และช่วยในการลดน้ำหนักด้วย

อันดับ 2 ปลาทูน่า (Tuna)

แม้จะมีประเด็นเรื่องความยั่งยืนของการจับปลาทูน่า แต่หากได้กินแล้วก็ไม่เคยผิดหวัง เพราะเป็นปลาที่นิยมที่สุดในซูชิ แม้จะปรุงสุก ทูน่าก็ยังอร่อยอยู่ดี โดยเฉพาะแบบย่างนอกดิบใน ที่ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว เป็นปลาที่ใครได้ลองแล้วก็มักจะกลับมากินอีกครั้ง 

ปลาทูน่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และวิตามินบี 12 นอกจากนี้ยังมีวิตามินดี, แคลเซียม, แมกนีเซียม, และซีลีเนียม ซึ่งช่วยบำรุงหัวใจ, สมอง, ระบบภูมิคุ้มกัน, และกระดูก

ทูน่า

อันดับ 1 ปลากะตัก (Anchovies)

อาจจะฟังดูขัดใจหลายคน แต่ปลากะตักคือสุดยอดอาหารทะเล ด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่เพียงแค่จับได้แบบยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังอร่อยและปรุงได้หลากหลาย ปลากะตักให้รสอูมามิเข้มข้นในคำเดียว กินเปล่า ๆ ก็อร่อย หรือจะใส่ในเมนูที่ต้องการชูรสก็ได้ดีเยี่ยม ลองเก็บปลากะตักกระป๋องไว้ในตู้ แล้วใส่ลงในเมนูต่าง ๆ คุณอาจจะแปลกใจว่าอาหารคุณจะอร่อยขึ้นแค่ไหน

ปลากะตักมีวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นที่รู้จักกันดีว่าปลากะตักเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งส่งเสริมสุขภาพสมองและหัวใจ ปลากะตักยังมีซีลีเนียมซึ่งหากรับประทานเป็นประจำอาจลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิดได้

 ปลากะตัก

สำหรับอันดับที่ 11-26 จากการจัดอันดับของ Tasting Table มีดังนี้

11. หอยแมลงภู่ (Mussel)
12. ปลาอีโต้มอญ (Mahi-mahi)
13. ปลาซาร์ดีน (Sardines)
14. ไข่คาร์เวียร์ (Caviar)
15. กุ้ง (Shrimp)
16. แซลมอน(Salmon)
17. ปลาดาบ (Swordfish)
18. ปลาหมึก (Squid)
19. ล็อบสเตอร์ (Lobster)
20. ปลานิล (Tilapia)
21. ปลาเฮอร์ริง (Herring)
22. ปู (Crab)
23. ปลาไหล (Eel)
24. ปลาดุก (Catfish)
25. ไข่หอยเม่น (Sea Urchin)
26. หอยเป๋าฮื้อ (Abalone)

Read Entire Article