เศร้าสลด! เศรษฐีนีจีนวัย 56 ตัดสินใจมีลูกคนที่สอง หวั่นสมบัติตกเป็นของหลานสาว ทำลูกชายคนโตอายตัดขาดการติดต่อ สุดท้ายครอบครัวพัง
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมจีน เมื่อหญิงเศรษฐีวัย 56 ปี ตัดสินใจตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรคนที่สอง เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัพย์สินตกเป็นของคนนอกครอบครัว แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมา คือการถูกลูกชายคนโตตัดขาดความสัมพันธ์ และต้องเผชิญกับจุดจบอันน่าเศร้า
นาง “เฉิน” (นามสมมติ) อายุ 56 ปี เป็นนักธุรกิจหญิงจากเซี่ยงไฮ้ ผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ถึง 6 หลังและมีฐานะทางการเงินมั่งคั่ง แต่ชีวิตครอบครัวของเธอกลับเรียบง่าย มีเพียงลูกชายเพียงคนเดียว
ต่อมา ลูกชายของเธอแต่งงานและมีบุตรสาวหนึ่งคน ก่อนจะยืนยันกับแม่ว่าไม่ต้องการมีลูกเพิ่มอีก ด้วยเหตุนี้เอง นางเฉินจึงเริ่มกังวลว่า อนาคตทรัพย์สินทั้งหมดอาจตกเป็นของหลานสาว และเสี่ยงต่อการ “หลุดมือ” ไปอยู่ในสายเลือดของครอบครัวฝ่ายหญิง
จากความกังวลดังกล่าว นางเฉินและสามีตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต ด้วยการพยายามมีลูกอีกคน แม้อยู่ในวัยเกือบ 60 ปี แต่แม้ความพยายามในการตั้งครรภ์จะประสบความสำเร็จ และเธอได้ให้กำเนิดลูกชายคนที่สอง แต่อีกด้านหนึ่ง กลับเกิดความร้าวฉานในครอบครัวครั้งใหญ่
ลูกชายคนโตและภรรยาของเขารู้สึกอับอายที่พ่อแม่มีลูกใหม่ในวัยเกษียณ และรับไม่ได้กับการตัดสินใจดังกล่าว พวกเขาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับพ่อแม่อย่างถาวร ไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยียน หรือแม้แต่พบหน้าลูกคนใหม่ของนางเฉิน
ช่วงแรก นางเฉินและสามียังพยายามปรับตัวกับชีวิตใหม่ของการเลี้ยงลูก แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น สุขภาพเริ่มถดถอย ความเหนื่อยล้าในการดูแลเด็กทารกเริ่มส่งผลรุนแรงต่อร่างกายและจิตใจของทั้งสอง
สุดท้ายต้องเผชิญความจริง เมื่อวัยชราไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะเลี้ยงลูกเล็ก พวกเขายอมรับว่าการตัดสินใจมีลูกคนที่สองเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ พวกเขาต้องแลกด้วยความแตกแยกในครอบครัวและชีวิตที่เปลี่ยนไปตลอดกาล
3 สิ่งที่ผู้สูงอายุควรคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจมีลูก
ปัจจุบัน แนวโน้มการมีบุตรในวัยสูงอายุเริ่มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนมีฐานะที่ต้องการวางแผนสืบทอดทรัพย์สิน แต่การตัดสินใจในช่วงปลายชีวิตจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะใน 3 ประเด็นสำคัญ
1. สุขภาพร่างกายไหวหรือไม่?
ร่างกายของผู้หญิงวัย 50 ขึ้นไปมักประสบปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ ซึ่งล้วนเพิ่มความเสี่ยงระหว่างตั้งครรภ์และคลอดบุตร ไม่เพียงแต่ตัวแม่เท่านั้น เด็กที่เกิดมาก็อาจเผชิญภาวะแทรกซ้อน
2. ฐานะการเงินมั่นคงพอหรือเปล่า?
การเลี้ยงลูกในยุคปัจจุบันต้องใช้เงินจำนวนมาก ตั้งแต่ค่าศึกษา ค่าเลี้ยงดู ไปจนถึงค่ารักษาพยาบาล หากผู้ปกครองอยู่ในช่วงเกษียณแล้ว รายได้มีจำกัด อาจไม่สามารถดูแลลูกได้อย่างมีคุณภาพในระยะยาว แม้จะมีทรัพย์สินอย่างอสังหาริมทรัพย์ ก็ไม่ได้หมายความว่ามีเงินสดเพียงพอ
3. ครอบครัวเห็นด้วยหรือไม่?
การมีลูกในวัยชราไม่ได้กระทบแค่ตัวพ่อแม่ แต่ยังรวมถึงความรู้สึกของลูกที่โตแล้ว หลายคนอาจรู้สึกว่าเป็นภาระที่ต้องดูแลน้อง หรือมองว่าพ่อแม่ไม่ปรึกษาก่อนตัดสินใจ การขาดการสื่อสารนี้อาจนำไปสู่ความร้าวฉานในครอบครัว
ท้ายที่สุด แม้เจตนาของนางเฉินจะมาจากความหวังดีและต้องการปกป้องทรัพย์สินของครอบครัว แต่การตัดสินใจโดยไม่รับฟังความคิดเห็นของลูกหลาน กลับนำไปสู่ความสูญเสียทางจิตใจที่ไม่มีทรัพย์สินใดทดแทนได้
การมีลูกไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของพ่อแม่ แต่คือเรื่องของ “ครอบครัวทั้งหมด” ที่ต้องพูดคุยกันอย่างจริงใจ ก่อนตัดสินใจในเรื่องที่อาจเปลี่ยนชีวิตทุกคนตลอดไป ดังนั้น อย่าปล่อยให้อารมณ์นำทาง จนต้องจ่ายแพงด้วย “ความสัมพันธ์ครอบครัว”
- หญิงวัย 91 หกล้มไปหาหมอ อึ้งตรวจพบว่า "ท้อง" ลูกชายวัย 60 รู้ความลับถึงกับร้องไห้
- ชาวเน็ตยังข้องใจ ผู้เฒ่าอ้างใช้ "ยาจีน" แล้วกลับมามีประจำเดือน ล่าสุดคลอดลูกคนเล็กอีก