แต่งงาน 4 ปี ลูกยังไม่มาเกิด หนุ่มช็อก เจอความลับใต้หมอน "เมียคนเก่ง" โทรไปถามทันที!

สามีช็อก พบยาคุมใต้หมอนภรรยา เผยบทสนทนาสะเทือนใจ สารภาพพร้อมคำพูดสั้นๆ "ฉันขอโทษ"

ในโลกออนไลน์ของเวียดนามกำลังพูดถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่พบยาคุมกำเนิดซ่อนอยู่ใต้หมอนของภรรยา ขณะเธอเดินทางไปทำงานต่างเมือง ซึ่งนำไปสู่บทสนทนาที่ทั้งสะเทือนใจและสะท้อนปัญหาชีวิตคู่ในยุคใหม่

ชายหนุ่มผู้เล่าเรื่องระบุว่า เขาและภรรยาแต่งงานกันมากว่า 4 ปี ความสัมพันธ์ของทั้งสองแม้ไม่หวานชื่นแบบคู่รักในนิยาย แต่มั่นคงและเต็มไปด้วยความไว้ใจ ภรรยาของเขาเป็นคนฉลาด สุขุม และทุ่มเทกับงานด้านการตลาดจนแทบไม่มีเวลาสำหรับชีวิตส่วนตัว

กระทั่งช่วงที่ภรรยาไปทำงานต่างจังหวัด 3 วัน เขาอยู่บ้านคนเดียว และรู้สึกถึงความเหงาที่ค่อยๆ กัดกินความสัมพันธ์ เพราะพักหลังทั้งคู่แทบไม่ได้ใช้เวลาใกล้ชิดกันเหมือนเดิม

คืนหนึ่ง เขาตั้งใจจะเปลี่ยนปลอกหมอนให้ภรรยาเพื่อสร้างความประหลาดใจเล็กๆ แต่กลับพบแผงยาคุมกำเนิดซ่อนอยู่ลึกใต้หมอน เหมือนถูกซ่อนไว้อย่างมีพิรุธ ทำให้เขาตกใจอย่างมาก เพราะทั้งสองกำลังวางแผนจะมีลูกด้วยกัน

ความสงสัยบีบหัวใจจนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาภรรยาทันที เมื่อถามถึงแผงยาคุม ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเอ่ยคำขอโทษพร้อมน้ำเสียงสั่นเครือ "ขอโทษนะ" จากนั้นเธออธิบายว่า แท้จริงแล้วยังไม่พร้อมจะมีลูก แต่กลัวว่าหากพูดออกไปตรงๆ สามีจะเสียใจ จึงซื้อยาคุมมาเก็บไว้เฉยๆ โดยยังไม่ได้ใช้

คำพูดของเธอทำให้เขานิ่งงัน ไม่ใช่เพราะความโกรธ แต่เพราะความไม่เข้าใจกันระหว่างคนที่เคยใกล้ชิด เมื่อเวลาผ่านไป การพูดคุยและความผูกพันก็ลดลงตามภาระหน้าที่และความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวัน

เขายอมรับว่าตัวเองก็เริ่มตั้งคำถามว่า ทำไมแค่เรื่องเล็กๆ อย่างแผงยาคุม ถึงทำให้เขาคิดไปไกลถึงขั้น "ถูกหักหลัง" ทั้งที่ความจริงอาจเป็นเพียงความกลัวและความไม่พร้อมของคนที่เขารัก แต่สุดท้ายก็ครุ่นคิดได้ว่า หากยังดึงดันให้ภรรยามีลูกทั้งที่ใจเธอยังไม่พร้อม อาจนำไปสู่ปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่า คือความรู้สึกฝืนใจ และอาจส่งผลต่อการเลี้ยงดูลูกในอนาคต

เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ "การสื่อสาร" ในชีวิตคู่อย่างลึกซึ้ง แม้จะรักกันมากแค่ไหน แต่หากขาดการพูดคุย เปิดใจ และเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน ความสัมพันธ์ก็อาจค่อยๆ ห่างเหิน และนำไปสู่ความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น สำหรับคู่รักยุคใหม่ ความพร้อมในการมีลูกไม่ใช่แค่เรื่องของเวลา แต่คือการตัดสินใจร่วมกันจากความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริง