แพ้กลิ่น "ทุเรียน" ไม่ใช่เรื่องเล็ก หมออธิบายเหตุผลทางการแพทย์ รุนแรงถึงขั้นหมดสติ

แพ้กลิ่น "ทุเรียน" ไม่ใช่เรื่องเล็ก ไม่ใช่แค่ชอบหรือไม่ชอบ หมออธิบายเหตุผลทางการแพทย์ บางคนถึงขั้นหมดสติ

“ทุเรียน” คือราชาแห่งผลไม้ไทยที่หลายคนหลงใหลในรสชาติอันหอมหวานและเนื้อเนียนนุ่ม แต่ในขณะเดียวกัน กลิ่นเฉพาะตัวของทุเรียนก็ทำให้บางคนถึงกับต้องเบือนหน้าหนี และสำหรับบางราย กลิ่นทุเรียนไม่ใช่แค่ "เหม็น" แต่กลับเป็น "อันตราย" ถึงขั้นแพ้อย่างรุนแรง

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความชอบหรือไม่ชอบส่วนบุคคล แต่เป็นปัญหาด้านสุขภาพที่เคยเกิดขึ้นจริง และกลายเป็นอุทาหรณ์ในสังคม

ย้อนเหตุการณ์ กระเป๋ารถเมล์หมดสติเพราะกลิ่นทุเรียน

เมื่อปี 2566 เกิดเหตุการณ์ที่กระเป๋ารถเมล์หญิงรายหนึ่งหมดสติบนรถเมล์ หลังผู้โดยสารนำทุเรียนขึ้นรถ กลิ่นทุเรียนที่โชยมาทำให้เธอเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจติดขัด และหมดสติลงทันที ผู้โดยสารคนอื่นต้องรีบช่วยปฐมพยาบาล รวมถึงใช้พัดช่วยระบายกลิ่น ก่อนเรียกหน่วยกู้ภัยมารับตัวส่งโรงพยาบาล

เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้โดยสารในรถต้องลงไปขึ้นคันอื่น และกลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ โดยผู้โพสต์เหตุการณ์ได้ฝากเตือนว่า “ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่ไม่ได้ไปต่อ อาจมีอีกหลายคนต้องกลับบ้านช้า เพราะมีคนที่แพ้ทุเรียนอย่างรุนแรง”

เฟซบุ๊ก กัสมา ศรีสงข์กระเป๋ารถเมล์แพ้กลิ่นทุเรียน

หมอชี้ “แพ้กลิ่นทุเรียน” เกิดจากสารในเนื้อผลไม้

 รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช ได้อธิบายผ่านเฟซบุ๊ก หมอหมู วีระศักดิ์ ไว้ว่า

อาการแพ้กลิ่นทุเรียน อาจจะแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรง บางคนอาจจะได้กลิ่นแล้วปวดหัว หายใจไม่ออก แสบคอ แสบจมูก หรืออาจถึงขั้นเป็นลมได้

สาเหตุของการแพ้กลิ่นทุเรียนเกิดจากการที่ร่างกายผลิตภูมิต้านทานต่อสารที่อยู่ในกลิ่นของทุเรียน ซึ่งมีชื่อว่า เอทิลเมไทโอเนต หรือ เอทิลไทโอเนต ซึ่งสารเหล่านี้มีกลิ่นหวาน ปนเปรี้ยว เหมือนกับสารที่ใช้ในการผลิตผลไม้แปรรูป

ถ้าหากแพ้กลิ่นทุเรียนจนเป็นลม ควรไปพบแพทย์ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับทุเรียนให้ได้มากที่สุด

แต่หากแพ้กลิ่นทุเรียนโดยไม่ถึงขั้นเป็นลม วิธีการเพื่อช่วยบรรเทาอาการแพ้ สามารถทำได้โดยการ หายใจผ่านปาก เพื่อไม่ให้สารกระตุ้นผ่านจมูก หรือใช้ผ้าปิดจมูก เพื่อกรองสารกระตุ้น และดื่มน้ำ เพื่อชะล้างสารกระตุ้นในช่องปาก

ข้อควรรู้: "ทุเรียน" ห้ามนำขึ้นรถไฟฟ้า

เนื่องจากกลิ่นของทุเรียนมีความแรงและอาจรบกวนผู้โดยสารคนอื่น หรือในกรณีร้ายแรงอาจกระตุ้นอาการแพ้ได้ ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศไทยและหลายประเทศจึงมี ข้อห้ามชัดเจน ในการนำทุเรียนขึ้นรถ เช่น

• รถไฟฟ้า BTS ห้ามนำทุเรียนหรือผลไม้ที่มีกลิ่นแรงขึ้นรถโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนอาจถูกปฏิเสธการให้บริการ
• รถไฟฟ้า MRT (ใต้ดิน) ระบุชัดเจนในประกาศว่า ห้ามนำทุเรียนและผลไม้กลิ่นแรงเข้าสู่สถานีและตัวขบวนรถ
• รถไฟฟ้า Airport Rail Link มีนโยบายเดียวกัน โดยถือว่าทุเรียนจัดอยู่ใน “สัมภาระต้องห้าม”

นอกจากนี้ ระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ เช่น รถไฟ หรือ รถโดยสารประจำทางระยะไกล บางสาย ก็มีการห้ามหรือจำกัดการขนส่งทุเรียนเช่นกัน โดยเฉพาะหากไม่ได้บรรจุอย่างมิดชิดและควบคุมกลิ่น

หน้าทุเรียนมาแล้ว "หมอเจด" เตือนกินให้เป็น สุขภาพไม่พัง ใครบ้างที่ไม่ควรกินเลย