"แสตมป์" ยังมีอยู่ไหม เลิกใช้หรือยัง? ทำไมเมื่อก่อนต้องติดแสตมป์บนจดหมาย

"แสตมป์" ยังมีอยู่ไหม เลิกใช้หรือยัง? ทำไมเมื่อก่อนต้องติดแสตมป์บนจดหมาย

ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยีและการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต หลายคนอาจสงสัยว่า “แสตมป์” ที่เคยใช้ติดจดหมายยังมีอยู่หรือไม่ และมีประโยชน์อะไรในปัจจุบัน

แสตมป์ยังมีใช้อยู่หรือไม่?

คำตอบคือ ยังมีใช้อยู่ โดยเฉพาะในระบบไปรษณีย์ไทยที่ยังคงผลิตแสตมป์ออกมาทุกปี ทั้งในวาระสำคัญระดับชาติ และแบบทั่วไปสำหรับใช้ส่งเอกสารทางราชการหรือจดหมายที่ต้องการความเป็นทางการ แม้พฤติกรรมการส่งจดหมายด้วยกระดาษจะลดลงอย่างมากจากอิทธิพลของอีเมลและแอปพลิเคชันสื่อสาร แต่อุตสาหกรรมแสตมป์ก็ยังไม่หายไป

นอกจากนี้ “แสตมป์สะสม” ยังเป็นตลาดเฉพาะที่เติบโตต่อเนื่องในกลุ่มนักสะสมทั่วโลก โดยเฉพาะแสตมป์รุ่นหายากหรือแสตมป์ลวดลายพิเศษที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการ

แสตมป์เลิกใช้แล้วหรือยัง?

แสตมป์ ยังไม่ถูกยกเลิก จากระบบไปรษณีย์ของไทย แต่ยอมรับว่าปริมาณการใช้งานและการผลิตลดลงจากอดีตอย่างชัดเจน เพราะการสื่อสารส่วนใหญ่ย้ายไปอยู่บนโลกดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ในบางขั้นตอนของราชการหรือธุรกรรมที่ต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร การส่งจดหมายพร้อมแสตมป์ยังคงจำเป็นอยู่

ทำไมเมื่อก่อนต้องแปะแสตมป์บนจดหมาย?

หน้าที่หลักของแสตมป์คือ แสดงว่าผู้ส่งได้ชำระค่าบริการไปรษณีย์แล้ว เป็นเหมือน “ใบเสร็จ” ที่ไปรษณีย์ใช้ตรวจสอบความถูกต้อง และเพื่อป้องกันการนำแสตมป์กลับมาใช้ซ้ำ เจ้าหน้าที่จะประทับตรายกเลิกบนแสตมป์ จึงนิยมติดไว้ที่มุมขวาบนของซองจดหมายเพื่อความสะดวกในการดำเนินการ

ประโยชน์ของแสตมป์

• หลักฐานการชำระเงิน: ใช้แสดงว่าค่าบริการไปรษณีย์ได้รับการชำระเรียบร้อยแล้ว
• ของสะสมและงานศิลปะ: แสตมป์แต่ละดวงเปรียบเสมือนงานศิลปะจิ๋ว บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเหตุการณ์สำคัญของชาติ
• สื่อกลางทางสังคม: ในยุคที่การเขียนจดหมายยังแพร่หลาย แสตมป์มีบทบาทในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน
• Soft Power: แสตมป์บางรุ่นสะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศ ด้วยการออกแบบโดยศิลปินแห่งชาติ หรือถ่ายทอดเรื่องราวไทยสู่สายตาชาวโลก

สรุป

แม้แสตมป์จะไม่ใช่ของใช้ประจำวันในยุคดิจิทัล แต่ก็ยังไม่หายไปจากระบบไปรษณีย์ไทย และยังคงมีคุณค่าในหลายมิติ ทั้งในฐานะเครื่องมือส่งสาร หลักฐานการชำระเงิน ผลงานศิลปะ และของสะสมที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ปัจจุบันยังมีการต่อยอดสู่แสตมป์ NFT และบทบาทใหม่ในโลกดิจิทัลอีกด้วย

อ้างอิง

• Thai Post