แม้จะเป็นช่วงเวลาแห่งความปลื้มปีติ กับการคว้ามงกุฎ Miss World 2025 ของ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี บนเวทีที่จัดขึ้นที่เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย แต่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ ก็มีเหตุการณ์เศร้าใจที่เธอไม่มีวันลืม
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 โอปอลได้โพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวสะเทือนใจ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพที่เธอถ่ายร่วมกับเด็กหญิงชาวอินเดีย 3 คน ซึ่งเธอได้พบในวันแรกที่เดินทางมาถึงอินเดีย และได้พูดคุย เล่นสนุกกันที่ร้านไข่มุกใกล้จารมินาร์ แต่หลังจากนั้นเธอจะได้ทราบข่าวร้ายว่า เด็กหญิงและครอบครัวจากไปแบบไม่มีวันกลับจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ หลังจากที่เธอไปที่ร้านดังกล่าวเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์
ข้อความของ โอปอล สุชาตา แปลเป็นภาษาไทยได้ดังนี้
"ในช่วงวันแรกที่ฉันมาถึง ฉันมีโอกาสไปเยี่ยมชมร้านไข่มุกที่สวยงามแห่งหนึ่งที่จารมินาร์ ฉันรู้ว่าไฮเดอราบัดเป็นเมืองแห่งไข่มุก เช่นเดียวกับบ้านเกิดของฉันที่ประเทศไทย ดังนั้นฉันจึงตั้งใจไม่เพียงแค่สนับสนุนชุมชนท้องถิ่น แต่ยังอยากแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมของบ้านทั้งสองหลังของฉัน
ฉันมีช่วงเวลาที่แสนวิเศษกับการลองไข่มุกและออกแบบลุคต่าง ๆ กับทุกคนในร้าน จนลืมความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางทั้งหมดไปเลย ก่อนที่ฉันจะออกจากร้าน มีเด็กผู้หญิงบางคนมาขอถ่ายรูปด้วย เด็กน้อยในชุดขาว แม่ของเธอบอกกับฉันว่า เธอตื่นเต้นมากที่รู้ว่าฉันจะมาเยี่ยมร้าน จนขอให้แม่หาชุดสวย ๆ มาให้ใส่ เพื่อจะได้ดูสวยเหมือนฉัน ทั้งที่ในความจริง เธอก็ดูสวยงามอยู่แล้วไม่ว่าจะใส่อะไรก็ตาม
และเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างขวาฉันก็มีท่าทีตื่นเต้นไม่แพ้กัน ฉันยังบอกเธอด้วยว่า ฉันก็มีเดรสลายม้าลายแบบเดียวกันอยู่ในกระเป๋าเดินทาง และหลังเทศกาล ฉันตั้งใจจะกลับมาเจอเธออีกครั้งในชุดที่แมตช์กัน
แม่ของเด็ก ๆ ยังไม่ได้ถ่ายรูปกับฉันในครั้งนั้น จึงวางแผนว่าจะถ่ายด้วยกันในครั้งหน้า ก่อนฉันจะจากมา พวกเขายังเชิญฉันเข้าไปในบ้านที่อยู่ด้านหลังร้าน แม่ของพวกเธอกำลังทำอาหาร กลิ่นหอมอบอวลเหมือนกับบ้านที่เต็มไปด้วยความรัก และเราก็ร่ำลากันโดยสัญญาว่า จะได้พบกันอีกครั้ง
แต่โชคร้าย... เด็กหญิงแสนสวยทั้งสามคน และสมาชิกครอบครัวของพวกเธออีก 17 คน เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม
ฉันไม่มีคำใดจะอธิบายถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ พวกเธอส่งแรงใจและอธิษฐานให้ฉันด้วยความรักและความหวังอย่างเต็มเปี่ยม และหัวใจฉันก็แทบสลาย ที่พวกเธอไม่ได้อยู่ร่วมเฉลิมฉลองชัยชนะของเรา
เรื่องราวของพวกเธอจะอยู่ในหัวใจของฉันตลอดไป และคำอธิษฐานที่พวกเธอมอบให้ฉัน จะยังคงเป็นแหล่งพลังใจและความหวังให้ฉันในทุกย่างก้าวของชีวิต
ขอให้ดวงวิญญาณของพวกเธอได้พักผ่อนอย่างสงบในสรวงสวรรค์ ขอให้จิตวิญญาณของพวกเธอได้รับการนำทางด้วยความรักและเมตตา และขอให้เราได้พบกันอีกครั้งในชาติหน้า"