ไขข้อข้องใจ: อาบน้ำ "ฝักบัว VS ใช้ขัน" แบบไหนประหยัดน้ำและสะอาดกว่า?

1 week ago 9
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

ในทุกวันของเรา "การอาบน้ำ" อาจดูเป็นกิจวัตรธรรมดา แต่เบื้องหลังนั้นเกี่ยวพันกับทั้งสุขอนามัยส่วนตัวและการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

หลายคนอาจเคยสงสัยว่า ระหว่างการ "อาบน้ำด้วยฝักบัว" กับการ "ใช้ขันตักอาบ" แบบไทยๆ แบบไหน "สะอาดกว่า" และแบบไหน "ประหยัดน้ำ" มากกว่า?

คำตอบอาจไม่ตายตัว แต่เมื่อมองผ่านแง่มุมของพฤติกรรม การใช้งานจริง และความสะดวก เราก็สามารถหาคำตอบที่เหมาะกับวิถีชีวิตของแต่ละคนได้ไม่ยาก

0

ด้านความประหยัดน้ำ

ขันตักอาบ – ประหยัดกว่า "โดยเฉลี่ย"

การใช้ขันตักน้ำจะช่วยให้คุณควบคุมปริมาณน้ำที่ใช้ได้ง่ายกว่า คนทั่วไปใช้ขันประมาณ 5–10 ลิตรต่อการอาบน้ำ 1 ครั้ง ขณะที่การใช้ฝักบัว หากเปิดทิ้งไว้ตลอดการอาบน้ำอาจใช้ถึง 40–60 ลิตรต่อครั้ง (หรือมากกว่า)

เว้นแต่ว่าคุณจะเปิดฝักบัวเป็นจังหวะ (เช่น ปิดตอนถูสบู่) ก็สามารถประหยัดน้ำได้ใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับการใช้ขัน หรืออาจจะประหยัดกว่าด้วยซ้ำ

img-man-shower-1-640x427-1

ด้านความสะอาด

ฝักบัว – สะอาดกว่า "หากใช้อย่างถูกวิธี"

น้ำจากฝักบัวไหลผ่านร่างกายลงพื้นทันที ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกออกไปได้ดีกว่า ในขณะที่การใช้ขันตักอาจมีการใช้น้ำซ้ำ (ในกะละมังหรือถัง) หรือมือสัมผัสซ้ำ จึงอาจมีโอกาสปนเปื้อนบ้างหากไม่สะอาดจริง รวมไปถึงการราดตัวที่น้ำอาจไม่สัมผัสผิวกายทั้งหมดด้วย

อย่างไรก็ตาม ถ้าระบบน้ำไม่สะอาด หรือหัวฝักบัวมีคราบสะสม ก็อาจทำให้สะอาดน้อยลงได้เช่นกัน

prote

ข้อแนะนำ

- หากใช้ฝักบัว ควรเลือกแบบ หัวเล็กหรือประหยัดน้ำ (low flow)

- หากใช้ขัน ควรมั่นใจว่า ถังน้ำและขันสะอาด และไม่นำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเลือกอาบน้ำด้วยฝักบัวหรือใช้ขันตักอาบ ต่างก็มีข้อดีและข้อควรระวังในแบบของตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือ "การใช้อย่างมีสติและความรับผิดชอบ" เพราะไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน ท้ายที่สุดแล้ว สุขอนามัยที่ดีและการประหยัดทรัพยากรควรมาพร้อมกันเสมอ

Read Entire Article