"ไตฝ่อ" เพราะ 7 พฤติกรรมนี้ ทำร้ายไตโดยไม่รู้ตัว ข้อสุดท้ายทำหลายคนตกใจ

1 week ago 7
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

พฤติกรรมบางอย่างที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่กลับค่อย ๆ “กัดกร่อน” ไตอย่างเงียบ ๆ  เผย 7 พฤติกรรมทำร้ายไตซึ่งหลายคนกำลังเผลอทำอยู่

ตามรายงานของ Times of India มีพฤติกรรมบางอย่างที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่กลับค่อย ๆ “กัดกร่อน” ไตอย่างเงียบ ๆ จนในที่สุดทำให้การทำงานของไตลดลง ด้านล่างนี้คือ 7 พฤติกรรมที่ทำร้ายไตซึ่งหลายคนกำลังเผลอทำอยู่

7 นิสัยที่ทำร้ายไต

Lorena Martínez

1. กินเค็มเกินไป

แม้โซเดียมจำเป็นต่อร่างกาย แต่การบริโภคเกินความจำเป็นอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งความดันสูงจะทำให้ไตต้องทำงานหนักและเสี่ยงต่อการทำลายหลอดเลือดเล็ก ๆ ภายในไต ทำให้ความสามารถในการกรองเลือดลดลงอย่างชัดเจน

ดังนั้นแทนที่จะใส่เกลือมากเกินไป ควรใช้สมุนไพรหรือเครื่องเทศธรรมชาติช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร

2. ดื่มน้ำน้อย

น้ำช่วยให้ไตขับสารพิษออกจากร่างกาย หากร่างกายขาดน้ำ ของเสียจะสะสมและอาจทำให้เกิดนิ่วในไตหรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

การดื่มน้ำ 2–3 ลิตรต่อวัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย จะช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหัวใจ หรือโรคตับแข็ง ควรดื่มน้ำตามคำแนะนำของแพทย์

Pixabay

3. ใช้ยาแก้ปวดเกินจำเป็น

หลายคนมักใช้ไอบูโพรเฟนหรือพาราเซตามอลเป็นประจำเพื่อบรรเทาปวดหัวหรือปวดเมื่อย แต่การใช้ยามากเกินไปอาจลดการไหลเวียนเลือดไปยังไต ทำให้ไตค่อย ๆ เสื่อมสภาพ

ดังนั้นควรใช้ยาแก้ปวดตามคำแนะนำของแพทย์ และหลีกเลี่ยงการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่ได้ปรึกษา

4. กินอาหารแปรรูปมากเกินไป

มันฝรั่งทอด ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรืออาหารบรรจุแพ็กมักมีเกลือ น้ำตาล และไขมันที่ไม่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคอ้วน 3 “ศัตรูตัวฉกาจ” ของไต

ดังนั้นควรจำกัดอาหารเหล่านี้ และเน้นรับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่ปรุงสุกสดใหม่ที่บ้าน

โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็น แต่การบริโภคมากเกินไป โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อแดง จะทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นในการกรองของเสีย ซึ่งเป็นภาระต่อไตและอาจทำให้การทำงานของไตเสื่อมลงในระยะยาว

ดังนั้นในการวางแผนมื้ออาหาร ควรจัดสัดส่วนโปรตีนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ควบคู่กับผักและผลไม้

6. สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

บุหรี่ลดการไหลเวียนเลือดไปยังไต ส่วนแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดน้ำและเพิ่มความดันโลหิต การรวมสองพฤติกรรมนี้จะเร่งการทำลายไตและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรัง

RDNE Stock project

7. นอนหลับไม่เพียงพอ

หลายคนคาดไม่ถึงว่าการนอนหลับมีผลโดยตรงต่อสุขภาพไต การนอนหลับไม่เพียงพอหรือคุณภาพการนอนต่ำ จะทำให้ไตไม่ได้มีเวลาฟื้นฟู นอกจากนี้ การนอนหลับที่ไม่ดียังทำให้ร่างกายเกิดความเครียดและความดันโลหิตสูง 2 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกรองเลือดของไต

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ทุกคนนอนให้เพียงพอ 7–8 ชั่วโมงต่อคืน พร้อมรักษาวิถีชีวิตที่ผ่อนคลาย

ทำอย่างไรให้ไตแข็งแรง

เพื่อรักษาไตให้แข็งแรง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำสิ่งที่ควรทำ ดังนี้ 

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: กิจกรรมเช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเต้นรำ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ลดไขมันส่วนเกิน ควบคุมความดันโลหิต และเพิ่มประสิทธิภาพการกรองของไต

  • รับประทานอาหารอย่างสมดุล: ควรบริโภคอาหารหลากหลาย ครบ 4 หมู่ คือ แป้ง – โปรตีน – ผักผลไม้ – ไขมันดี พร้อมทั้งจำกัดเกลือ น้ำตาล อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรค เช่น ความดันสูง เบาหวาน หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคไต ควรตรวจการทำงานของไตเป็นระยะด้วยการวัดระดับครีเอตินีนในเลือด หรืออัตราส่วนอัลบูมิน/ครีเอตินีนในปัสสาวะ

แพทย์เน้นย้ำว่า “สุขภาพคือสมบัติที่ล้ำค่า” การปรับเปลี่ยนนิสัยเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมาก ช่วยให้ไตแข็งแรงและป้องกันการเสื่อมสภาพของไตในอนาคต

Read Entire Article