กินมื้อดึก ไม่ใช่หิวแต่ป่วย! สาววัย 25 ต้องรักษาด้วยจิตบำบัด ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม ปล่อยไว้พังทั้งร่างกายและจิตใจ
หญิงสาววัย 25 ปี ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างเร่งรีบ ต้องเผชิญงานที่เต็มไปด้วยความกดดัน ส่งผลให้เธอแน่นหน้าอก เบื่ออาหารในตอนกลางวัน แต่เมื่อเลิกงานกลับระบายอารมณ์ด้วยการกินแบบไม่ยั้ง โดยเฉพาะมื้อค่ำและกลางดึก แม้พยายามนอนให้เร็ว ควบคุมอาหาร แต่ก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายต้องเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น "ภาวะกินตอนกลางคืน" (Night Eating Disorder) ซึ่งหลังจากรับยา ปรับพฤติกรรม และเข้ารับจิตบำบัด อาการก็ค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 3 เดือน
ภาวะนี้คืออะไร? ใครเสี่ยงบ้าง?
นพ.โจว ป๋อฮั่น ผู้อำนวยการคลินิกเวชศาสตร์จิตใจในไต้หวัน ระบุว่า Night Eating Disorder เป็นภาวะผิดปกติที่พฤติกรรมการกินและจังหวะชีวิตไม่สอดคล้องกัน ผู้ป่วยมักจะรับประทานอาหารหลังมื้อค่ำเกิน 25% ของแคลอรีทั้งวัน หรือลุกมากินกลางดึกอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ อาการนี้ต้องแยกจากการกินมากเพราะฤทธิ์ของยานอนหลับ และหากเกิดต่อเนื่องนานเกิน 3 เดือน อาจเข้าข่ายภาวะนี้
ภาวะนี้พบในประชากรทั่วไปประมาณ 1–2% โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากความเครียดสะสม ระบบฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ เช่น สารเซโรโทนินและโดปามีนที่เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ผิดสมดุล รวมถึงวงจรเมลาโทนินที่ผิดเพี้ยน ทำให้หิวง่ายช่วงกลางคืน โดยเฉพาะในผู้ที่กินอาหารไม่ตรงเวลา หรือนอนดึกเป็นประจำ
กินเพื่อคลายเครียด ไม่ได้หิวจริง!
ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ได้กินเพราะหิว แต่ใช้การกินเพื่อจัดการความเครียด ความว่างเปล่า หรืออารมณ์ด้านลบ เช่น รู้สึกว่าถ้าไม่กินจะยิ่งนอนไม่หลับ หรือกินแล้วสบายใจขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาในการจัดการอารมณ์อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ Night Eating Disorder ยังเกี่ยวข้องกับ โรคซึมเศร้าแบบเฉพาะ (Atypical Depression) โดยในเวลากลางวัน ผู้ป่วยจะรู้สึกเศร้า ซึม ไม่กระตือรือร้น แต่พอกลางคืนกลับหงุดหงิดและอยากอาหารมากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำหนักเกิน ภาพลักษณ์แย่ลง และยิ่งซ้ำเติมอาการซึมเศร้าให้แย่ลงไปอีก
3 แนวทางหลักในการรักษา
การรักษาภาวะนี้ไม่ใช่แค่การ “ห้ามกินมื้อดึก” แต่ต้องดูแลแบบองค์รวม โดยมี 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่:
-
การใช้ยา:
-
ใช้ยากลุ่ม SSRI ช่วยลดความเครียดในตอนกลางวัน และควบคุมแรงกระตุ้นอยากอาหารในตอนกลางคืน
-
ใช้ยาเมลาโทนินเพื่อปรับจังหวะการนอนให้เหมาะสม
-
-
จิตบำบัด:
-
การบำบัดพฤติกรรมทางความคิด (CBT) เพื่อแก้ความเชื่อผิดๆ เช่น “กินแล้วหลับง่ายขึ้น”
-
การบำบัดแบบมีสติ (Mindfulness) เพื่อเรียนรู้การรับรู้ความหิวที่แท้จริง และลดพฤติกรรมกินตามอารมณ์
-
-
ปรับพฤติกรรมชีวิต:
-
กินอาหารให้ครบ 3 มื้ออย่างสม่ำเสมอ
-
เพิ่มกิจกรรมในตอนกลางวัน เช่น การออกกำลังกายหรือรับแสงแดด
-
สร้างนิสัยการนอนให้มีคุณภาพ
-
ภาวะ Night Eating Disorder ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพจิตและกายที่รุนแรงมากขึ้น หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมลุกมากินกลางดึกเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี