รู้ทัน “มะเร็งไต” เช็ก 5 อาการเบื้องต้นที่ห้ามนิ่งนอนใจ ใครบ้างเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง

4 weeks ago 13
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

รู้ทัน “มะเร็งไต” โรคร้ายที่พบไม่บ่อย แต่ไม่ควรมองข้าม ใครบ้างเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงมีอะไรบ้าง?

ไต เป็นอวัยวะสำคัญในระบบทางเดินปัสสาวะ มีหน้าที่ขจัดของเสีย ควบคุมสมดุลน้ำในร่างกาย และผลิตฮอร์โมน เมื่อไตทำงานผิดปกติ ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายด้าน หนึ่งในโรคที่ร้ายแรงคือ “มะเร็งไต” ซึ่งแม้จะพบไม่บ่อยเท่ามะเร็งชนิดอื่น แต่ก็ไม่ควรมองข้าม

มะเร็งไตคืออะไร?

มะเร็งไตคือการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ภายในไต ก่อตัวเป็นก้อนเนื้อที่สามารถลุกลามได้ มะเร็งไตแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:

  • Renal Cell Carcinoma (RCC) พบมากที่สุด ราว 90% ของผู้ป่วย

  • Transitional Cell Carcinoma (TCC) พบประมาณ 5–10% เกิดในกรวยไต

ปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง

แม้สาเหตุแน่ชัดยังไม่ทราบ แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่:

  • อายุ 50–70 ปี

  • เพศชายมีความเสี่ยงมากกว่าหญิง

  • การสูบบุหรี่ (คิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ป่วย)

  • โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง

  • มีประวัติไตวายเรื้อรังและฟอกไตระยะยาว

  • พันธุกรรมและมีคนในครอบครัวเคยป่วย

  • การสัมผัสสารเคมี เช่น แร่ใยหิน แคดเมียม

อาการที่ควรเฝ้าระวัง

อาการของโรคมะเร็งไต มักไม่แสดงอาการเด่นชัด ทำให้ผู้ที่เป็นมะเร็งไตจะไม่ทราบว่าตนเองเป็น โดยส่วนมากผู้ป่วยจะบังเอิญตรวจเจอจากการตรวจสุขภาพประจำปี อาการของมะเร็งไต สามารถแยกได้เป็น 2 ประเภท

1.อาการที่เกิดขึ้นในมะเร็งที่เกิดจากเนื้อไต ในระยะแรกๆ จะไม่มีอาการ จึงมักจะตรวจพบได้จากการตรวจสุขภาพประจำปี เช่น การตรวจอัลตร้าซาวด์ ช่องท้อง แต่หากก้อนมะเร็งเริ่มขยายใหญ่ มักจะมีอาการ โดยผู้ป่วยสามารถคลำเจอก้อนเนื้อ หรือมีอาการปวด โดยอาการปวดมักเป็นบริเวณเอว หรือท้องบริเวณใต้ชายโครงด้านใดด้านหนึ่ง บางรายอาจมีปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย

2.อาการที่เกิดขึ้นในมะเร็งที่เกิดจากกรวยไต มักจะมีปัสสาวะเป็นเลือด โดยสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือตรวจเจอเม็ดเลือดแดงในน้ำปัสสาวะจากการส่งตรวจน้ำปัสสาวะทางห้องปฏิบัติการ

ความผิดปกติที่ต้องรีบพบแพทย์

  • ปัสสาวะมีเลือดปน (สีชมพู แดง หรือน้ำตาล)

  • ปวดบั้นเอวหรือบริเวณชายโครง

  • คลำพบก้อน

  • อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

  • มีไข้เรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ

การวินิจฉัย

แพทย์จะตรวจสอบจากอาการ ประวัติสุขภาพ และใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น:

  • ตรวจเลือดและปัสสาวะ

  • อัลตราซาวด์, CT Scan, MRI

  • ตรวจชิ้นเนื้อกรณีภาพตรวจไม่ชัดเจน

  • ตรวจเพิ่มเติมเพื่อดูการกระจาย เช่น เอกซเรย์ทรวงอก สแกนกระดูก

ระยะของมะเร็งไต

  • ระยะที่ 1: ก้อนมะเร็งไม่เกิน 7 ซม. ยังไม่ลุกลาม

  • ระยะที่ 2: ก้อนมะเร็งเกิน 7 ซม. ยังไม่ลุกลาม

  • ระยะที่ 3: เซลล์มะเร็งเริ่มลุกลามไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียง

  • ระยะที่ 4: ลุกลามสู่ต่อมน้ำเหลือง กระดูก ตับ หรือปอด

แนวทางการรักษา

1. การผ่าตัด

  • Radical Nephrectomy: ตัดไตข้างหนึ่งออกทั้งหมด

  • Partial Nephrectomy: ตัดเฉพาะก้อนเนื้อออก โดยคงไตบางส่วนไว้

สามารถทำได้ 2 แบบ:

  • การผ่าตัดเปิดหน้าท้องแบบดั้งเดิม

  • การผ่าตัดส่องกล้อง/แขนกล (Robotic Surgery): เจ็บน้อย แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว ลดความเสี่ยงแทรกซ้อน

2. ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)

กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ใช้ได้ดีในบางราย

3. การรักษาแบบจำเพาะเจาะจง (Targeted Therapy)

ใช้ยาที่มุ่งเป้าเฉพาะเซลล์มะเร็ง เหมาะสำหรับมะเร็งที่ลุกลาม

4. เคมีบำบัด (Chemotherapy)

ใช้ในผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะเมื่อมะเร็งกระจาย

การป้องกันที่ทำได้

  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์

  • ควบคุมความดันโลหิต

  • ตรวจสุขภาพประจำปี

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารพิษ

สรุป

แม้มะเร็งไตจะไม่ใช่มะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุด แต่ก็เป็นโรคร้ายที่อันตรายและต้องรับมืออย่างทันท่วงที หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โอกาสในการรักษาหายมีสูง อย่าลืมตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ เพราะการ “รู้เร็ว รักษาเร็ว” คือกุญแจสำคัญ

Read Entire Article