หมอยกเคส หญิงวัย 60 เป็นมะเร็ง 2 ชนิดรวด แนะสังเกต "ติ่งเนื้อ" สัญญาณอันตราย ว่าอาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพ
มีติ่งเนื้อเล็กขึ้นที่ร่างกาย อาจเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพ!
ดร.จาง เจียหมิง แพทย์ด้านพันธุศาสตร์ เคยรักษาผู้หญิงวัย 60 กว่า ที่มีติ่งเนื้อเล็กขึ้นที่คอ แต่ไม่ให้ความสำคัญ จนกระทั่งไปตัดออก ต่อมาเธอถูกตรวจพบเป็นมะเร็ง 2 ชนิดติดต่อกัน หลังจากการตรวจพันธุกรรมครบวงจร พบว่ามีการขาดหายของยีน PTEN ซึ่งทำหน้าที่ยับยั้งการเกิดมะเร็ง ดังนั้นหากมีติ่งเนื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติมะเร็งในครอบครัว ควรพิจารณาทำการตรวจพันธุกรรมเพื่อความปลอดภัย
ดร.จาง เจียหมิง ได้เผยแพร่ข้อมูลทางการแพทย์ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อเร็วๆ นี้ โดยระบุว่า การเกิดติ่งเนื้อเล็กเป็นปรากฏการณ์ที่พบได้บ่อยและโดยทั่วไปไม่เป็นอันตราย มักจะมีผลแค่ในเรื่องของลักษณะภายนอกหรือทำให้รู้สึกไม่สบายจากการเสียดสี แต่บางครั้งการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ผิวหนังเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ภายใน โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของยีน
ดร.จาง เจียหมิง เล่าต่อว่า ผู้หญิงวัย 60 กว่าได้มีติ่งเนื้อเล็กหลายจุดที่คอในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากคิดว่าไม่สำคัญจึงได้ไปตัดออกทีละอัน แต่ต่อมาพบว่าเธอมีเนื้องอกไขมันที่ไต และยังป่วยเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและมะเร็งเต้านม
"ปัญหาที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกันเหล่านี้ เมื่อเชื่อมโยงกันกลับทำให้ต้องสงสัยว่าอาจมีสาเหตุร่วมกัน"
ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการส่งต่อมาที่ ดร.จาง เจียหมิง เพื่อทำการตรวจพันธุกรรมครบวงจร หลังจากการวิเคราะห์พบว่า "ยีน PTEN ของเธอขาดหายไป"
ดร.จางอธิบายว่า ยีน PTEN เป็นยีนที่สำคัญมากในการยับยั้งมะเร็ง ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการแบ่งเซลล์เพื่อให้เซลล์ทำงานได้ตามปกติ เมื่อยีนนี้เกิดการกลายพันธุ์ เซลล์อาจเติบโตอย่างควบคุมไม่ได้ ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นเนื้องอกทั้งชนิดดีและร้าย
ดร.จาง กล่าวว่า ความผิดปกติของยีนนี้ทำให้ผู้ป่วยรายนี้ประสบกับเนื้องอกหลายครั้ง รวมถึงมะเร็งเต้านม, มะเร็งไทรอยด์, ปัญหาทางเดินอาหาร, ผิวหนัง และระบบประสาท
ดร.จาง เจียหมิง อธิบายเพิ่มเติมว่า ติ่งเนื้อเล็กเป็นหนึ่งในอาการที่อาจเกิดจากความผิดปกติของยีน PTEN เขายังเตือนว่า หากมีติ่งเนื้อจำนวนมากบนร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติมะเร็งหรือเนื้องอกในครอบครัว ควรพิจารณาทำการตรวจพันธุกรรม เพื่อประเมินความเสี่ยงทางพันธุกรรมและวางแผนการตรวจสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเอง
นอกจากการตรวจแล้ว เขายังแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ ควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง และจัดการกับความเครียดเพื่อรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น