อีกครั้ง! นิตยสารไทม์ยกให้ ‘ทรัมป์’ เป็นบุคคลแห่งปี 2024

1 week ago 9
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลั่นระฆังเปิดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากนิตยสารไทม์ ยกให้เขาเป็นบุคคลแห่งปีเป็นครั้งที่ 2 ตามรายงานของเอพี

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 47 ภริยาเมลาเนีย ทรัมป์ บุตรสาว อิวังกา และทิฟฟานี ทรัมป์ รวมทั้งว่าที่รองปธน. เจ.ดี. แวนซ์ ร่วมถ่ายภาพก่อนลั่นระฆังเปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่นครนิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของทรัมป์

ทรัมป์ กล่าวก่อนเคาะระฆังว่า เป็นเกียรติอย่างสูง และว่า “สำหรับนิตยสารไทม์ การได้รับเกียรตินี้เป็นครั้งที่ 2 นี้ จริง ๆ ผมคิดว่าผมชอบมันมากกว่าคราวก่อนเสียอีก” ก่อนลั่นระฆังที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และชูกำปั้นที่เป็นท่าประจำตัวของเขา

ว่าปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ชูมือหลังลั่นระฆังเปิดการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเป็นครั้งแรกของเขา เมื่อ 12 ธ.ค. 2024 (AP Photo/Alex Brandon)
ว่าปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ชูมือหลังลั่นระฆังเปิดการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเป็นครั้งแรกของเขา เมื่อ 12 ธ.ค. 2024 (AP Photo/Alex Brandon)

ในครั้งนี้นิตยสารไทม์ ยกย่องโดนัลด์ ทรัมป์ นักธุรกิจที่ผันตัวเป็นนักการเมือง ในการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง จากอดีตประธานาธิบดีที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน กลับมาเป็นว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ หลังได้รับชัยชนะเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

แซม เจคอบส์ บรรณาธิการใหญ่นิตยสารไทม์ กล่าวในรายการ Today ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีว่า ทรัมป์เป็นบุคคลแห่งปี 2024 และว่าทรัมป์ คือคนที่ “ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เขาก็มีอิทธิพลที่สุดบนสื่อต่าง ๆ ในปี 2024 นี้”

เจคอบส์กล่าวว่า “นี่คือบุคคลที่ได้กลับมาครั้งประวัติศาสตร์ ผู้พลิกโฉมความเป็นประธานาธิบดีอเมริกัน และผู้จัดลำดับการเมืองอเมริกันใหม่” และว่า “มันยากที่จะโต้แย้งถึงความจริงที่ว่าบุคคลที่กำลังจะเข้าไปอยู่ที่ห้องทำงานรูปไข่นี้เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในหน้าสื่อ”

ในบทสัมภาษณ์ของทรัมป์กับนิตยสารไทม์ ที่วางขายเมื่อวันพฤหัสบดี เขากล่าวถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายและชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า “ผมเรียกมันว่า 72 วันแห่งความเกรี้ยวกราด” และว่า “เราได้พูดแทงใจดำคนทั้งประเทศ ประเทศเรากำลังโกรธเกรี้ยว”

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2016 ทรัมป์ เป็นบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ เมื่อครั้งชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งเมื่อ 8 ปีก่อน โดยปีนี้ทรัมป์ขับเคี่ยวกับผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นบุคคลแห่งปีรายอื่น ๆ รวมทั้งรองปธน.คามาลา แฮร์ริส อิลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล และเจ้าหญิงแคทเธอรีน แห่งเวลส์

เจคอบส์ กล่าวในการประกาศชื่อบุคคลแห่งปีเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “มีการถกเถียงอย่างดุเดือดมาตลอด” ในการเลือกบุคคลแห่งปี “แต่ยอมรับว่าในปีนี้มันการตัดสินใจที่ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ ”

ทรัมป์ มีความหลงใหลในการปรากฎตัวบนปกของนิตยสารไทม์ ซึ่งเขาอยู่บนหน้าปกนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1989 และเคยกล่าวอ้างอย่างมีไม่มูลว่ามีภาพของเขาขึ้นปกนิตยสารนี้มากที่สุด และสื่อ Washington Post รายงานเมื่อปี 2017 ว่าทรัมป์มีภาพขึ้นปกนิตยสารไทม์ปลอม ๆ ที่แขวนไว้ตามสนามกอล์ฟของเขาหลายแห่ง

ไทม์กระเทาะ ทรัมป์หลากประเด็นร้อนก่อนรับตำแหน่ง

ในบทสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์เมื่อวันพฤหัสบดี ทรัมป์ยืนยันว่าจะอภัยโทษผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อ 6 มกราคมปี 2021 เป็นสิ่งแรก ๆ ที่จะทำหลังเป็นประธานาธิบดี และว่า “อาจเกิดขึ้นใน 9 นาทีแรก” ด้วย

ส่วนประเด็นเรื่องบุคคลในคณะรัฐบาล ทรัมป์บอกว่าจะไม่ขอให้พวกเขาลงนามให้คำมั่นเรื่องความจงรักภักดี แต่ตนสามารถรับรู้หรือแยกแยะได้ และพร้อมจะไล่คนที่ไม่ปฏิบัติตามแนวนโยบายของตน

สำหรับเรื่องสงครามในกาซ่า ทรัมป์กล่าวว่าตนต้องการยุติความขัดแย้งและเนทันยาฮูรับรู้เรื่องนี้ และเมื่อถูกถามว่าเชื่อในตัวเนทันยาฮูหรือไม่ ทรัมป์ตอบนิตยสารไทม์ว่า “ผมไม่เชื่อใครทั้งนั้น”

นอกจากนี้ ว่าที่ปธน.คนที่ 47 ของสหรัฐฯ ยังเปิดใจเรื่องแผนเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ และว่าตนมีอำนาจในการใช้กำลังทหารในปฏิบัติการดังกล่าว แม้ว่านิตยสารไทม์จะระบุว่า ภายใต้กฎหมาย Posse Comitatus Act จะห้ามการใช้กำลังทหารกับประชาชนก็ตาม โดยทรัมป์แย้งว่าอาจทำได้หากเป็นการบุกรุกประเทศ และว่า “ผมจะทำสิ่งที่กฎหมายเอื้อให้เท่านั้น แต่จะยกระดับไปถึงจุดสูงสุดที่กฎหมายกำหนด”

ทรัมป์วางภาพลักษณ์ในสังคมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่ง ซึ่งเห็นได้ชัดในรายการเรียลลิตี้ The Apprentice และในการหาเสียงเลือกตั้ง เขากุมชัยในการเลือกตั้งจากการจี้ปมความวิตกกังวลของชาวอเมริกันในเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของคนชั้นกลาง

และในการสัมภาษณ์กับสื่อ CNBC หลังลั่นระฆังที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรัมป์เปรียบเปรยการปลดเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางครั้งใหญ่ ที่เขาและที่ปรึกษาพยายามจะทำเหมือนกับการไล่ผู้เข้าแข่งขันออกในรายการเรียลลิตี้ โดยบอกว่า “เรากำลังจะทำสิ่งเดียวกันนี้ ผมบอกคุณได้เลย แต่โชคร้ายที่มีคนเหล่านี้อยู่มาก”

  • ที่มา: เอพี

กระดานความเห็น

Please enable JavaScript to view the comments powered by Disqus.
Read Entire Article