ไวรัลโซเชียลฯ จากความห่างไกลของแม่ สู่ภาพ "ลูกชาย" ชวนใจจะขาด มีแค่กล้องที่ถ่ายไว้ได้

2 weeks ago 12
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

แม่ทำงานต่างประเทศ เปิดกล้องที่บ้านเจอภาพ "ลูกชาย" นั่งนิ่งๆ ไม่ดื้อไม่ซน แต่มองแล้วชวนใจสลาย ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ให้กำลังใจเพียบ

ความปรารถนาของผู้เป็นพ่อแม่ส่วนใหญ่คือการได้อยู่ใกล้ลูกๆ และในทางกลับกัน ก็ไม่มีเด็กคนไหนที่อยากอยู่ห่างจากพ่อแม่ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายตามที่วาดหวัง ด้วยเหตุผลต่างๆ มากมาย รวมทั้งความไม่มั่นคงในด้านเศรษฐกิจ หลายคนจึงต้องยอมเดินทางไปทำงานไกลบ้าน เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวและเลี้ยงลูกไปพร้อมกัน สิ่งที่ตามมาคือความกังวลว่าอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ลูก กลัวว่าลูกจะขาดการดูแลและความรักจากพ่อแม่...

เมื่อไม่นานมานี้ คลิปหนึ่งได้ทำให้ผู้คนทั่วโลกอินเทอร์จุกในอกจนน้ำตาซึม เมื่อผู้เป็นแม่แชร์ภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด คลิปนี้มีชื่อว่า "ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไร เพื่อให้เพียงพอ ไม่ต้องไปหากินไกล และได้อยู่กับลูก" หลังจากดูจบก็ทำให้พ่อแม่หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาอย่างสุดกลั้น

โดยในคลิปดังกล่าว บันทึกช่วงเวลาที่ลูกชายตัวน้อยๆ นั่งอยู่คนเดียวในบ้านที่ว่างเปล่า ทุกวันผ่านไป แม้ฉากจะเปลี่ยนไป มุมกล้องจะเปลี่ยนไป แต่ความเหงาของเด็กชายยังคงสัมผัสได้เหมือนเดิมทุกวัน ดูเหมือนไม่มีการกระทำอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้ให้ความสนใจสิ่งใด เพียงนั่งนิ่งๆ ในที่เดียวเป็นเวลานาน บางครั้งก็มุมหนึ่งของบ้าน บางครั้งก็กลางลานหน้าบ้าน

แม่ที่ทำงานอยู่ไกลบ้านไม่อาจห้ามน้ำตา เมื่อเห็นภาพลูกชายที่นั่งอยู่คนเดียวใน ได้แต่กล่าวอย่างหมดหนทางว่า "ที่ที่มีงานทำก็ไม่มีลูก ที่ที่มีลูกก็ไม่มีงานทำ เราคือคนธรรมดา ชีวิตเราไม่ว่าเลือกยังไงมันก็ไม่สมบูรณ์แบบ เราไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อเงิน แต่ชีวิตที่เราอยากได้มันต้องใช้เงิน"

จากข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่า เนื่องจากทั้งพ่อและแม่จำเป็นต้องไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ทุกครั้งที่เปิดกล้องวงจรปิดดูและเห็นภาพลูกเช่นนี้ก็มักจะร้องไห้เพราะคิดถึง และในโซเชียลมีเดียของเธอก็มักจะโพสต์คลิปของลูกชายเพื่อบรรเทาความรู้สึกของตัวเอง

คนแห่ส่งกำลังใจและแชร์ประสบการณ์เพื่อชี้แนะ

ทั้งนี้ ใต้คลิปวิดีโอดังกล่าว มีหลายคนเข้ามาส่งกำลังใจและแชร์ความรู้สึกเดียวกันกับครอบครัวนี้ ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากอยู่ห่างลูกโดยเฉพาะเมื่อลูกยังเล็ก แต่ด้วยภาระเรื่องเงิน ถ้าไม่ไปหางานที่ไกลก็จะไม่พอเลี้ยงดูลูกได้ ชีวิตของผู้ใหญ่เต็มไปด้วยความกดดันและความกังวลต่างๆ ทุกทางเลือกต้องมีการแลกเปลี่ยนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หลายคนหวังว่าชีวิตของครอบครัวในคลิปนี้จะดีขึ้น เพื่อให้เด็กชายมีเวลาอยู่กับพ่อแม่มากขึ้น

"ปีนี้ผมอายุ 33 ปี แต่ได้อยู่กับแม่แค่ 13 ปี ที่เหลือแม่ต้องไปทำงานไกลบ้านเพื่อหาเงิน ถึงแม้ว่าชีวิตจะได้รับการดูแลจากเงินของแม่อย่างดีไม่ต้องลำบาก แต่สิ่งที่ผมต้องการและอยากได้ที่สุดคือการมีแม่อยู่ข้างๆ ในวัยเด็กที่ขาดความรักและความใส่ใจรู้สึกเหงาและอยากได้แม่ ตอนนี้มีลูกแล้วถึงเข้าใจว่าไม่มีเงินเลี้ยงลูกก็ลำบาก แต่ทิ้งลูกให้อยู่คนเดียวก็สงสารมาก"

"ขอให้คุณแม่พยายามหาความสมดุล และกลับไปอยู่กับลูกเร็วๆ เพราะลูกกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการพ่อแม่อยู่ข้างๆ ขอส่งกอดนับพันให้คุณแม่!"

"มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดจนแทบขาดใจ ซึ่งคนที่มีลูกเท่านั้นที่จะเข้าใจ ฉันและสามีทำงานต่างจังหวัดทั้งคู่ ต้องเช่าบ้านอยู่หลายปี แต่ก็พาลูกไปด้วย เพราะเด็กมีแค่ช่วงวัยเดียวในชีวิต และช่วงวัยเด็กของลูกสิ่งที่ต้องการก็คือพ่อแม่"

"ผมและภรรยาก็ทำงานไกลบ้าน แต่ก็พาลูกไปด้วย เงินเดือนผม 5,000 บาท ส่วนภรรยาก็ 7,000 บาท ก็ไม่ได้เยอะอะไร แต่ผมเลือกที่จะพาลูกไปด้วย ให้ลูกเรียนในโรงเรียนรัฐบาลในเมือง เพราะไม่สามารถทิ้งลูกให้อยู่คนเดียวได้"

"นี่คือการแชร์ประสบการณ์จากชีวิตของผมในวัยเด็ก พ่อแม่ไปทำงานหาเงิน กลับบ้านมาทีไร ก็จะเอาของเล่นมาให้แล้วก็กลับไปทำงานไกลบ้าน เวลานั้นผมไม่ได้ต้องการเงินหรอก แค่ต้องการให้พ่อแม่อยู่ข้างๆ พอโตขึ้น ผมมีผลกระทบในหลายด้าน ขาดความมั่นใจและไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ แต่สิ่งเหล่านั้นทำให้ผมแข็งแกร่งและเป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้ดี ถึงตอนนี้ผมยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ และไม่เคยโกรธพวกท่านที่ไปทำงานไกลบ้าน ตอนนี้มีลูกแล้ว และไม่อยากให้ลูกของผมต้องเป็นแบบที่ผมเคยเป็น"

"ตอนเด็กๆ ผมต้องเลี้ยงน้องตอนอยู่ชั้น ป.3 เพื่อให้พ่อแม่ไปทำงานไกลบ้าน กลับมาทีละ 2 สัปดาห์ ผมเข้าใจความรู้สึกคิดถึงพ่อแม่และอยากเห็นพวกท่านกลับบ้านในช่วงเทศกาล อยากให้กำลังใจและหวังว่าครอบครัวคุณจะได้อยู่ด้วยกันเร็วๆ นี้"

"ตอนตี 5 เจอคลิปนี้น้ำตาไหลไปกับคุณเลยค่ะ สงสารเด็กน้อย หวังว่าเด็กๆ จะเข้าใจและเห็นใจพ่อแม่ เพื่อให้ชีวิตของลูกในอนาคตดีกว่านี้ และมีสิ่งที่ต้องการให้ลูก จึงต้องยอมจากบ้านไปทำงานไกล"

"วัยเด็กแบบนี้พวกเราก็เคยผ่านมาแล้ว ตอนนั้นไม่ลำบาก แต่มันเหงามาก พ่อแม่ไปทำงานไกลบ้าน น้องแค่ 1 ขวบ ส่วนผม 5 ขวบ บางครั้งก็อยากให้พ่อแม่ไปร่วมประชุมผู้ปกครองหรือปกป้องเรา มานึกถึงตอนนั้นยังทำให้ร้องไห้เลย ตอนนี้เราโตแล้ว ไม่มีวันโทษพ่อแม่ที่ไปทำงานไกลบ้าน แต่ก็คิดเสมอว่าเมื่อยังทำได้ก็จะพยายาม สักวันหนึ่งก็จะได้อยู่ใกล้ๆ ครอบครัว"

Read Entire Article